หัวข้อโครงการและข้อมูลผู้รับผิดชอบโครงการ
ชื่อโครงการ “สังคมอยู่ดี กับพลังตาพลเมือง” (Citizen
Eyes Power)
ประเด็น สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย
ทำให้สังคมอยู่ร่มเย็นเป็นสุข
คำอธิบายโดยย่อ ในปัจจุบันสังคมไทยละเลยกฎหมาย ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชุมชน
และในสังคมเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
อาทิเช่น
ป้ายโฆษณาที่เสื่อมสภาพพร้อมที่จะล้มลงมาสร้างความเดือดร้อนเมื่อมีลมพายุฝน หรือ
สภาพแวดล้อมบนถนนและฟุตบาท ที่ไม่เอื้อต่อการใช้งาน
เนื่องจากการไม่ประสานงานกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้มีอุปสรรคมากมาย หรือ
การติดตั้งป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผิดกฎหมาย
ทำให้เกิดการกระตุ้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดการดื่มมากขึ้น
และเป็นสาเหตุของการกระทำความผิดมากมาย ทั้งอุบติเหตุ คดีข่มขืน การทะเลาะวิวาท
การฆ่ากันตาย ดังนั้น ทีมงานคนพิการที่ผ่านการอบรมความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะออกสำรวจสภาพแวดล้อม
3 เรื่อง คือ 1) อุปสรรคบนถนน-ฟุตบาท-สะพานลอย 2)
ป้ายโฆษณาที่มีโครงสร้างที่อาจเป็นอันตราย และ 3) ป้ายโฆษณาที่กระทำความผิด พรบ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ข้อมูลทั้งหมดจะทำการบันทึกผ่านระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ และจะทำการ
ส่งเรื่องติดตาม ผลการประสานงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมต่อไป
ภาพรวมของโครงการ
2.1 ปัญหา
3 เรื่องที่เป็นจุดเริ่มต้นของความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ปัจจุบันทุกประเทศทั่วโลกมีกฎหมายรัฐธรรมนูญ
และกฎหมายลูกต่างๆ ทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งเนื้อหาของกฎหมายก็จะมีทั้งข้อปฏิบัติ
ข้อห้าม นำไปสู่บทลงโทษทุกฉบับ สิ่งสำคัญคือ การละเลยการบังคับใช้ การละเมิด
หรือใช้ช่องว่างทางกฎหมาย ในการทำประโยชน์ ทำให้เกิดความวุ่นวาย เกิดอุบัติเหตุ
เกิดการทะเลาะวิวาท เกิดผลเสียหายต่อประชาชน สังคม และประเทศชาติทั้งสิ้น
ไม่เว้นประเทศไทยของเรา
จุดที่น่าสังเกตคือ
ปัญหาทั้ง 3 เรื่องนี้สามารถพบเจออยู่ทั่วไป ในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล หากเดินสำรวจบนฟุตบาท
ก็จะพบเห็นอุปสรรคบนฟุตบาท รวมทั้งป้ายโฆษณาใหญ่ก็เช่นเดียวกัน
และไม่เว้นที่จะมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่มักจะมีป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ดังนั้น โครงการ “สังคมอยู่ดี กับคนไทยใจดี”
จึงเป็นโครงการบูรณาการที่จะเข้ามาสำรวจปัญหาทั้ง 3 เรื่องไปพร้อมๆ
กันในการสำรวจครั้งเดียวด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ที่เข้าถึงได้ง่ายในยุคปัจจุบัน เพิ่มเติมข้อมูลปัญหาแต่ละเรื่องดังนี้
2.1.1
ปัญหาเกี่ยวกับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่
ที่มีความไม่ปลอดภัย มีการล้มพัง อันเนื่องจาก มีอายุการใช้งานมานาน
หรือเมื่อมีลมพายุฝน หรือทั้งสองสาเหตุรวมกัน
ภาพตัวอย่างป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันนิยมใช้โฆษณาสินค้ากันอย่างแพร่หลาย
ภาพตัวอย่างป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่พังลงมา
หรือถูกทำลายจากภัยธรรมชาติ
เมื่อสีชั้นนอก และสีชั้นใน ที่ถูกแดดและฝนตลอดทั้งปี หลายปีผ่านไป
เกิดการแลกเปลี่ยนประจุจนทำให้เนื้อเหล็กเริ่มถูกทำลาย จนในที่สุดพังลงมาเอง
หรือไม่สามารถทนต่อแรงลมพายุฝนได้ ซึ่งหลักการของการดูแลรักษาซ่อมบำรุงโครงสร้างป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เหล่านี้
ใกล้เคียงกับเรือเดินทะเล
ที่ต้องมีการเคลือบแมกนีเซียมไว้ชั้นนอกสุดของตัวสีที่ทาภายนอกขอองผิวเรือ
เพื่อให้แลกเปลี่ยนประจุ (การถูกกัดกร่อน) กับน้ำทะเล
และต้องทำการเคลือบแมกนีเซียมเป็นระยะๆ เพื่อป้องกันผิวภายนอกไม่ให้ถูกทำลาย
ผุกร่อน ซึ่งจะเป็นอันตรายในระหว่างเดินทะเล
ลักษณะป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่สถานที่ติดตั้งไม่ใกล้ที่พักอาศัย
เช่น ตามริมถนน หรือหน้าบริษัทที่ติดริมถนน เป็นต้น
ภาพตัวอย่างป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ติดตั้งบนตัวอาคาร
หรือใกล้ที่พักอาศัย
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า
หากป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่ขาดการดูแลรักษา
เมื่อมีปัจจัยภายนอกมากระทบกับโครงสร้างของป้ายฯ จะทำให้เกิดดารล้มพังลงได้
จึงควรได้รับการสำรวจ และแจ้งเตือน เพื่อเฝ้าระวัง
และสร้างบรรทัดฐานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและมีการประเมินสภาพอายุการใช้งานทุกปี
เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
2.1.2
ปัญหาเกี่ยวกับป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ซึ่งทำให้เกิดการกระตุ้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกออฮอล์มากขึ้น
ทำให้เป็นต้นทางที่อาจเป็นสาเหตุของการกระทำความผิดมากมาย ทั้งอุบติเหตุ คดีข่มขืน
กาทะเลาะวิวาท การฆ่ากันตาย เป็นต้น
ภาพตัวอย่างป้ายโฆษณาขนาดใหญ่และป้ายโฆษณาเครื่อองดื่มแอลกอฮอล์ตามหน้าร้านอาหารริมถนน
ภาพตัวอย่างร้านค้าขายส่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่และป้ายแขวนโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
จากหลักจิตวิทยาและหลักการตลาด
การโฆษณาให้ลูกค้าเห็นผลิตภัณฑ์นั้นสามารถกระตุ้นการบริโภคได้ ยกตัวอย่างเช่น
การแทรกภาพผลิตภัณฑ์แฝงในการโฆษราผ่านรายการทีวี เป็นต้น
ทำให้ร้านค้าริมถนนทั้งถนนสายหลัก หรือแม้แต่ริมถนนสายรองต่างๆ
ที่มีการติดตั้งป้ายชื่อร้าน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 5
ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นโลโก้ หรือแบรนด์ หรือสัญลักษณ์
ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อต่างๆ แทบทุกร้าน อันเนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น
ร้านค้าต้องการป้ายโฆษณาชื่อร้านฟรี
จากบริษัทผู้ผลิตหรือนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อประชาสัมพันธ์ร้าน
หรือได้รับการกระตุ้นจากบริษัทผู้ผลิตหรือนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขาย
จึงให้ติดตั้งป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้หน้าร้านดังภาพตัวอย่าง
ซึ่งส่วนใหญ่ร้านค้าแทบไม่ทราบว่าตนเองกำลังกระทำความผิดในการโฆษณาสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ภาพตัวอย่างร้านค้าที่มีป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และชื่อร้านในป้ายเดียวกันที่นิยมและแพร่หลายมาก
ในภาวะปัจจุบัน
สาเหตุสำคัญๆ ของคดีความอาชญากรรมต่างๆ นั้น นอกจากยาบ้า ที่เป็นต้นเหตุ
สุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็เป็นต้นเหตุสำคัญอีกเช่นกัน
และเป็นสิ่งเสพติดที่สามารถทำให้เกิดโรคและต้องได้รับการบำบัด เช่นเดียวกัน
การเกิดอุบัติเหตุ การกระทำความรุนแรงต่อเด็กและสตรี คดีล่วงละเมิดทางเพศ
คดีทะเลาะวิวาท คดีฆ่ากันตาย
เกิดขึ้นจากสาเหตุการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหลัก
เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีหลายระดับราคา ตั้งแต่ 40 บาทขึ้นไป จึงทำให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย
โดยเฉพาะบุคคลที่ใช้แรงงาน ซึ่งรวมถึงชาวต่างด้าว
ดังนั้นประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แต่ผู้เกี่ยวข้องกลับละเมิดกฎหมาย อีกทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ยังเป็นต้นเหตุแห่งการเกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองและสังคมประเทศชาติ
จึงควรได้รับการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
2.1.3 ปัญหาอุปสรรคบนถนน บนฟุตบาท (บาทวิถี) และบนสะพานลอย
ที่มีทั้งสิ่งปลูกสร้าง สิ่งยึดตรึง การรุกล้ำพื้นที่ เช่น การต่อเติมอาคาร
การสร้างร้านค้า หรือพื้นที่การขายชั่วคราว เสาไฟฟ้า ตู้ชุมสาย ตู้โทรศัพท์
สายไฟฟ้าแรงสูงที่ไม่เรียบร้อย เป็นต้น อาทิเช่น
ภาพตัวอย่างสิ่งกีดขวางถนนและบนฟุตบาท
ที่ละเมิดกฎหมายท้องถิ่น และพรบ.จราจรและขนส่งฯ
· การจอดรถบนฟุตบาท
และการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์บนฟุตบาท ผิดพระราบัญญัติรัฐท้องถิ่น
· การตั้งวางสิ่งกีดขวาง
หรือแผงลอยร้านค้า บนฟุตบาท ผิดพระราบัญญัติรัฐท้องถิ่น
· การวางสิ่งของหรือกระทำการใดๆ
ที่ทำให้เกิดการกีดขวางการจราจร ผิด พรบ.จราจรและขนส่งฯ เป็นต้น
ภาพตัวอย่างสิ่งกีดขวางบนฟุตบาท
ที่เป็นป้ายโฆษณา และร้านค้าแผงลอย ที่ละเมิดกฎหมายรัฐท้องถิ่น
ภาพตัวอย่างอุปสรรคบนฟุตบาทและบนถนนที่เกิดจากการละเลยของผู้เกี่ยวข้อง
เช่น ฝาท่อระบายน้ำชำรุด
ภาพตัวอย่างของการไม่ประสานงานกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้การบริการประชาชน
จากหลายสาเหตุของการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติต่างๆ
ที่สามารถพบเจอบนถนนและฟุตบาท ยังมีอุปสรรคต่างๆ บนถนนและฟุตบาท
อันเกิดจากการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่
และการไม่ประสานงานกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นงานภาคบริการประชาชน
อาทิเช่น
· บนสะพานลอยมีสายไฟฟ้าแรงสูง
และสายโทรศัพท์ ทำให้กีดขวางการใช้งาน
· ฝาท่อระบายนำเปิดทิ้งไว้
หรือไม่มี หรือมีสภาพชำรุดเสียหาย
· การใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า
เช่น การปูแผ่นพื้นนำทางคนพิการทางสายตา ที่มีสิ่งกีดขวาง
หรือไม่ถูกต้องตามหลักการใช้งาน
· มีเสาไฟฟ้ากีดขวางทางบนฟุตบาท
ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ เป็นต้น
หากลองพิจารณาดูจะพบว่า ความเดือดร้อนของประชาชนในชีวิตประจำวันนั้นมีอยู่หลายเรื่องเป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นหากพิจารณาจากการที่ปัญหานั้นสามารถพบเจอได้ทั่วไป ควรแบ่งออกเป็นหมวดได้ 23 หมวด (แต่ละหมวดสามารถแยกรายละเอียดได้อีกในอนาคต) ดังนี้
· หมวดที่1
เรื่องฉุกเฉิน
· หมวดที่2
อาคาร
·
หมวดที่3
บาทวิถี
·
หมวดที่4
ถนน
·
หมวดที่5
สะพาน
· หมวดที่6
เขื่อนคูคลอง
·
หมวดที่7
ท่อระบายน้ำ
· หมวดที่8
ที่พักผู้โดยสาร
· หมวดที่9
ไฟฟ้า
· หมวดที่10
ประปา
· หมวดที่11
โทรศัพท์
·
หมวดที่12
ขยะและสิ่งปฏิกูล
· หมวดที่13
น้ำท่วม
· หมวดที่14
ต้นไม้ สวนสาธารณะ
·
หมวดที่15
สภาพแวดล้อม
·
หมวดที่16
กระทำผิดในที่สาธารณะ
·
หมวดที่17
ปัญหาจราจร
· หมวดที่18
การบริหารงานบุคคล
·
หมวดที่19
การคุ้มครองผู้บริโภค
· หมวดที่20
ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
· หมวดที่21
ยาเสพติด
·
หมวดที่22 เหตุเดือดร้อนรำคาญ
· หมวดที่23
เรื่องร้องทุกข์ประเภทอื่นๆ
จะเห็นว่าโครงการ “สังคมอยู่ดี กับพลังตาพลเมือง” (Citizen Eyes Power) สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการเริ่มต้นแก้ปัญหาสังคมได้ถึง 10 หมวด (ไฮไลท์สีเหลือง) จากทั้งหมด 23 หมวด โดยการสำรวจ การออกหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การประสานงานติดตาม และการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างผลกระทบต่อสังคม กระตุ้นการมีส่วนร่วมของสังคมต่อไป
(อธิบายปัญหาที่ต้องการแก้ไข
พร้อมหลักฐาน ตัวเลข สถิติ ถ้ามี)
2.2 ทางแก้ปัญหา (อธิบายสิ่งที่จะทำเพื่อแก้ไขปัญหา
พร้อมระบุกลุ่มเป้าหมาย)
จากปัญหาใหญ่ๆ
สำหรับโครงการ “สังคมอยู่ดี กับพลังตาพลเมือง” (Citizen Eyes Power) ที่สามารถพบเห็นได้บนท้องถนนที่เราดำรงชีวิตประจำวัน 3 เรื่อง คือ 1) ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่, 2)
ป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ 3) อุปสรรคและสิ่งกีดขวางบนถนนและฟุตบาท
ทางออกของปัญหา คือ ต้องกลับไปเริ่มต้นที่กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งจะถือว่าเป็นพื้นฐานของการนำไปสู่แนวทางการแก้ปัญหา ดังนี้
2.2.1 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่
และแนวทางการแก้ปัญหา
ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
มีหลายประเด็นน่าสนใจที่ทำให้เห็นว่ามีการละเมิดกฎหมายที่พบเห็นได้ทั่วไป
ยกตัวอย่าง เช่น ป้ายที่ติดตั้งอยู่บนที่ดินโดยตรง ต้องมีความสูงไม่เกินระยะที่วัดจากจุดที่ติดตั้งป้ายไปจนถึงกึ่งกลางถนนสาธารณะ
และสูงไม่เกิน 30 เมตร มีความยาวไม่เกิน 32 เมตร
และต้องห่างจากที่ดินเจ้าของไม่น้อยกว่า 4 เมตร หรือ อีกรณีคือ
ป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้าย
บนหลังคาหรือดาดฟ้าของอาคารต้องไม่ล้ำออกนอกแนวผนังรอบนอกของอาคาร
และส่วนบนสุดของป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งต้องสูงไม่เกิน 6 เมตร
จากส่วนสูงสุดของอาคารหรือดาดฟ้าของอาคารที่ติดตั้งป้ายนั้น ซึ่งทั้งสองกรณีมีการละเมิดกฎหมายจำนวนมาก
จากข่าวล่าสุดเมื่อ 31 พฤษภาคม 2558 หัวข้อข่าว
“700 ป้ายโฆษณาทั่วกรุงอ่วม เจอกฎหมายควบคุมป้ายใหม่-ต้องแก้”
ได้กล่าวถึงความปลอดภัย ดังนี้ “นาสาคร ตรีธนจิตต์ นายกสมาคมป้ายและโฆษณา
เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศกฎกระทรวงฉบับใหม่ ว่าด้วยการควบคุมอาคาร
พ.ศ.2558 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่ 24 เม.ย.58
ที่มีการประกาศกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาว่า
กฎกระทรวงดังกล่าวเป็นกฎหมายที่จะช่วยให้การควบคุมการดำเนินการเกี่ยวกับป้ายมีความชัดเจนมากขึ้น
ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางสมาคมฯ
ได้ผลักดันให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงความสำคัญเรื่องความปลอดภัยมาตั้งแต่แรก
โดยมีโครงการตรวจความแข็งแรงและให้ป้ายรับรองผ่านการตรวจสอบ
รวมทั้งเรื่องการทำประกันภัยบุคคลที่ 3
ก็มีการดำเนินการโดยความสมัครใจมาตั้งแต่กฎหมายฉบับนี้จะกำหนดบังคับใช้
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ป้ายโฆษณาล้มที่ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อประชาชนนั้น
มีหลายสาเหตุซึ่งในส่วนของการสร้างป้ายไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน
ผู้ที่เป็นผู้ประกอบการต้องมีความใส่ใจในความรับผิดชอบของตนเอง”
เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ ได้ลงข่าวเมื่อ 18 มีนาคม
2558 หัวข้อ “กทม. หวั่นป้ายโฆษณาล้มทับคนกรุง สั่งทุกเขตตรวจสอบความแข็งแรง
รับมือพายุฤดูร้อน 20-23 มี.ค.58 นี้”
มีเนื้อหาด้านการกระทำความผิดและด้านความปลอดภัย ดังนี้ “นายสัญญา ชีนิมิต
ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่าในวันที่ 20-23
มี.ค.นี้ ประเทศไทยจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกรรโชกแรง ซึ่งในกรุงเทพฯ
อาจจะเกิดฝนตกและมีลมกรรโชกแรงอันเนื่องจากพายุฤดูร้อน
ว่าอาจมีผลทำให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หักและโค่นล้มทับที่อยู่อาศัยหรือทำลายทรัพย์สินประชาชนเสียหายได้
จึงให้สำนักงานเขต
ดำเนินการแจ้งเจ้าของป้ายโฆษณาทำการตรวจสอบการใช้งานและความมั่นคงของป้าย
รวมทั้งเร่งรัดการรื้อถอนป้ายโฆษณาที่ผิดกฎหมาย
และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงกับป้ายโฆษณารับทราบถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ในกรณีที่สำนักงานเขตจะทำการรื้อถอนหรือปลดแผ่นป้าย
เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากป้ายล้ม
หากต้องการจะใช้เครื่องมือกลหนักและเบา ให้ประสานงานสำนักการโยธาเพื่อสนับสนุน”
และกระทรวงมหาดไทย
ยังมีการประกาศในเว็บไซต์ของกรมโยธาและการผังเมือง www.DPT.go.th เรื่อง
“การควบคุมดูแลความปลอดภัยของอาคารและป้ายโฆษณาขนาดใหญ่” ในช่วงลมพายุฝนดังกล่าว
อีกทั้งยังทำหนังสือถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ
โดยมีเนื้อหาส่วนใหญ่กล่าวถึงป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ผิดกฎหมายและไม่มีความมั่นคงให้ดำเนินการรื้อถอนตามมาตรา
46 ให้ตรวจสอบแก้ไข หากไม่แก้ไขให้พิจารณาสั่งรื้อถอนป้ายนั้นตามมาตรา 42 ต่อไป
และหากยังมีการฝ่าฝืนให้มีโทษตามมาตรา 65 ทวิ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน
หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากข้อมูลข่าว และประกาศ
แสดงให้เห็นว่าปัญหาของป้ายโฆษณาขนาดใหญ่นั้น
มีตั้งแต่การติดตั้งไม่อยู่ในกรอบของกฎหมาย เมื่อติดตั้งแล้วขาดการดูแลบำรุงรักษา
จนทำให้เมื่อมีลมพายุฝน ป้ายจะล้มพังทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ดังนั้นจึงเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวและพบเห็นได้ตามท้องถนนในชีวิตประจำวันของเรา
ทางแก้ปัญหา ตามแนวทางของโครงการ “สังคมอยู่ดี
กับพลังตาพลเมือง” คือ ต้องมีการสำรวจ ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ติดตามตรวจสอบ และประชาสัมพันธ์ ตามสิทธิ์ของความเป็นประชาชนที่ปกป้องสิทธิ์ในด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(ตามข้อ 2.3 วิธีการทำงาน)
2.2.2
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแนวทางการแก้ปัญหา
ปัจจุบันในชีวิตประจำวันเราจะพบเจอข่าวการกระทำความผิดต่างๆ
ทุกวันที่มีสาเหตุจากอาการมึนเมา อันเนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เมื่อศึกษาด้านกฎหมายตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ยังพบว่าการกระทำความผิดตาม
พรบ. ดังกล่าว เช่น เรื่องสถานที่ เวลา อายุผู้ซื้อ และปัญหาสำคัญคือ
การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่พบเห็นในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น สื่อสิงพิมพ์
การฉายภาพ วีดีทัศน์ ภาพยนตร์ เครื่องมือทางอิเลคทรอนิคส์
และป้ายโฆษณาที่พบเห็นตามร้านค้า ร้านอาหาร ริมถนนทั่วไป
การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา
32 และตามมาตรา 43 ผู้ใดฝ่าฝืนตามมาตรา 32 ต้องระวางโทษจะคุกไม่เกิน 1 ปี
หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากต้องระวางโทษดังกล่าวแล้ว
หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 50,000 บาท
ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
จากการลงทำกิจกรรมสำรวจที่จังหวัดชัยนาท เมื่อปี
2556 และออกหนังสือต่อเจ้าพนักงานตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
(สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท) เมื่อมีการติดตาม
พบว่าร้านค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนเองละเมิดพระราชบัญญัติ
จากนั้นเจ้าพนักงานที่ดูแล จัดประชุมผู้ประกอบการเพื่อชี้แจง
และทำการปรับสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามให้เป็นตัวอย่าง
ภาพตัวอย่างร้านค้าขายส่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่จังหวัดชัยนาท
ภาพตัวอย่างร้านค้าที่มีป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และชื่อร้านในป้ายเดียวกันที่จังหวัดชัยนาท
ทางแก้ปัญหา ตามแนวทางของโครงการ “สังคมอยู่ดี กับพลังตาพลเมือง”
คือ ต้องมีการสำรวจ ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามตรวจสอบ
และประชาสัมพันธ์
ตามสิทธิ์ของความเป็นประชาชนที่ปกป้องสิทธิ์ในด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(ตามข้อ 2.3 วิธีการทำงาน)
ภาพตัวอย่างหนังสือแจ้งการกระทำความผิด
พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 จ.ชัยนาท
2.2.3
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุปสรรคสิ่งกีดขวางบนถนน บนทางบาทวิถีสาธารณะ
และแนวทางการแก้ปัญหา
ด้านสิ่งกีดขวางและอุปสรรคอื่นๆ นั้น
ที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ใช้ที่สาธารณะ
จะใช้พระราชบัญญัติทั้ง 3 ฉบับร่วมกันในการพิจารณา
และยังสามารถใช้กฎหมายอื่นเพิ่มเติมในการดำเนินโครงการฯ เช่น พรบ.
คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2541 เป็นต้น
ทางแก้ปัญหา ตามแนวทางของโครงการ “สังคมอยู่ดี
กับพลังตาพลเมือง” คือ ต้องมีการสำรวจ ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ติดตามตรวจสอบ และประชาสัมพันธ์ ตามสิทธิ์ของความเป็นประชาชนที่ปกป้องสิทธิ์ในด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(ตามข้อ 2.3 วิธีการทำงาน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น