ผู้สนับสนุน: กองทุนรวมคนไทยใจดี




กองทุนบัวหลวง ผนึกกำลังกับ มูลนิธิเพื่อ คนไทยและ เช้นจ์ ฟิวชัน จัดตั้ง กองทุนรวม คนไทยใจดี (09/10/2014 15:37)

นางวรวรรณ  ธาราภูมิ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงได้ผนึกกำลังครั้งสำคัญกับ มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” และสถาบันเช้นจ์ ฟิวชัน เพื่อจัดตั้ง กองทุนรวม คนไทยใจดี” หรือ BKIND “การลงทุน...ที่ให้ทำดีตั้งแต่บาทแรกของเงินลงทุน” โดยเป็นกองทุน E S G C กองแรกของประเทศไทย

กองทุนรวม คนไทยใจดี มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมเงินจากผู้ลงทุนไปลงทุนในกิจการที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม 4 ด้าน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) บรรษัทภิบาล (Good Governance)และต่อต้านคอร์รัปชั่น (Anti-Corruption) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุน ภายใต้แนวคิดที่ว่ากิจการที่มีกำไรและยั่งยืนต้องอยู่บนพื้นฐานของการประกอบธุรกิจ เพื่อยกระดับสังคมไทยอย่างแท้จริง” ดังนั้น กองทุนรวม คนไทยใจดี  จึงจะใช้แนวคิดนี้ในการแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวที่ยั่งยืน โดยจะเน้นการลงทุนหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือตลาดรองอื่นๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่นอกจากจะเป็นกิจการที่มีปัจจัยพื้นฐานดีแล้ว ยังจะต้องเป็นกิจการที่ให้ความสำคัญกับการรับผิดชอบต่อสังคมทั้ง 4 ด้านข้างต้นด้วย

นอกเหนือจากเป็นกองทุนรวมกองแรกที่มุ่งในเรื่องของ ESGC แล้ว กองทุนรวม คนไทยใจดี ยังเป็นกองทุนรวมกองแรกที่มอบรายได้ในการจัดการกองทุน 40% หรือเทียบเท่า 0.8% ของมูลค่าเงินกองทุน เพื่อสนับสนุนหรือลงทุนในโครงการสาธารณประโยชน์ต่างๆ  อันเป็นการทำให้เงินทุกบาทของผู้ลงทุนมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ในการพิจารณาคัดเลือกโครงการต่างๆ ที่จะได้รับการสนับสนุนนั้น จะมีคณะกรรมการพิจารณาโครงการที่เหมาะสม ดังนั้น ผู้ลงทุนใน กองทุนรวม คนไทยใจดี จึงจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ และเป็นผู้ให้แก่สังคมได้ กองทุนนี้จึงเป็นการรวมคนที่มีแนวคิดของการให้ มาไว้ที่เดียวกันโดยลงทุนผ่านกองทุนเดียวกัน นับเป็นนวัตกรรมใหม่ของการลงทุน ที่เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ คือให้แก่สังคมและรับจากโอกาสในการลงทุน” นางวรวรรณ กล่าว 

กองทุนนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่เชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาวในกิจการดีๆ ที่รับผิดชอบต่อสังคมทั้ง 4 ด้าน (E, S, G, C) และต้องการให้ทุกบาททุกสตางค์ของเงินลงทุนของผู้ลงทุนมีส่วนร่วมสร้างสังคมไทยให้ดีขึ้น ทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่สามารถรับความผันผวนระยะสั้นของราคาหน่วยลงทุนของกองทุนได้ เนื่องจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นโดยมีเป้าหมายคือผลตอบแทนที่เป็นกอบเป็นกำในระยะยาว นอกจากนี้ ยังเหมาะแก่นิติบุคคลที่ต้องการสนับสนุนโครงการที่สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่สังคมไทยอีกด้วย

นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการ  มูลนิธิเพื่อ “คนไทย เปิดเผยถึงสาเหตุที่มูลนิธิฯ เข้ามามีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนคนไทยใจดีว่า เพราะต้องการเห็นคนไทยทุกภาคส่วน รวมทั้งนักลงทุน   มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสังคม ร่วมกันปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจขนาดใหญ่ที่อาศัยเพียงกำลังจากภาครัฐคงจะไม่สำเร็จ ภาคตลาดทุนเองก็สามารถช่วยได้ ถ้าดูจากเงินลงทุนในบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีมูลค่ามหาศาลถึง 14 ล้านล้านบาทต่อปี เพียง 1% ของเงินจำนวนนี้ถูกแบ่งมาลงทุนเพื่อสังคม ยิ่งจะช่วยทำให้เงินลงทุนอีก 99% นั้น เป็นทุนที่ยั่งยืน เติบโตต่อไปได้อีก

ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิฯ และสถาบันเช้นจ์ ฟิวชัน จึงได้เสนอแนวคิดนี้ต่อทีม บลจ.บัวหลวง ร่วมกันออกแบบกลไกเป็นกองทุนรวมตัวนี้  โดยหวังให้เกิดประโยชน์สองด้าน ด้านแรกเป็นกลไกที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้สนับสนุนบริษัทที่มีการกำกับกิจการที่ดีตามเกณฑ์ ESG ซึ่งเฉพาะกองทุนนี้ ได้ประยุกต์เพิ่มตัว C ที่หมายถึงการต่อต้านคอร์รัปชันเข้าไปด้วย กับอีกด้านเป็นกลไกที่กำหนดให้มีการแบ่งเงิน 0.8% ของผู้ลงทุน โดยจ่ายผ่านกลไกส่วนแบ่งค่าบริหารจัดการร้อยละ 40 ของบลจ.บัวหลวง ไปสนับสนุนโครงการที่แก้ปัญหาและสร้างสรรค์สังคมไทยประเภทต่างๆ 

"ในอนาคตอันใกล้ มูลนิธิฯ มีความตั้งใจที่จะพัฒนากองทุนเพื่อสังคมประเภทอื่นอีก พร้อมกับเดินหน้าต่อพัฒนาเกณฑ์การกำกับกิจการที่ดี ESGC ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ให้เป็นเกณฑ์ที่ใช้เป็นบรรทัดฐานที่ทุกหน่วยงานสามารถนำไปใช้ได้ สำหรับการลงทุนที่รับผิดชอบต่อสังคม หรือSocially Responsible Investment หรือ SRI ของประเทศไทย"

นายสุนิตย์ เชรษฐา ผู้อำนวยการ สถาบันเช้นจ์ ฟิวชัน ภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงโครงการเพื่อสังคมที่มีโอกาสได้รับเงินทุนสนับสนุนจากกองทุนนี้ว่า        เป็นโครงการที่มุ่งเน้นสร้างอนาคตใหม่ให้สังคมไทยในประเด็นที่มีความสำคัญ  สามารถวัดผลการเปลี่ยนแปลงได้ มีความยั่งยืน ขยายผลได้ และยังมีความเชื่อมโยงกับประเด็นการปฏิรูปประเทศไทยที่สำคัญ เช่น การศึกษา การลดความเหลื่อมล้ำโดยเฉพาะภาคการเกษตร การทุจริตคอร์รัปชัน การอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ โครงการเหล่านี้จะต้องมีแผนการดำเนินงานชัดเจนโดยองค์กร กลุ่มคน หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ  โดย คณะทำงานประกอบด้วยสถาบันเช้นจ์ฟิวชันฯและมูลนิธิเพื่อคนไทยเตรียมข้อมูลโครงการเพื่อสังคมที่ผ่านเกณฑ์แล้วนำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาโครงการซึ่งเป็นบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถเป็นที่ยอมรับว่ามีความเข้าใจปัญหาของสังคมไทยและมีวิสัยทัศน์แก้ไขปัญหา ประกอบด้วย นายวิรไท สันติประภพ นักเศรษฐศาสตร์ นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ  กรรมการสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ นางสินี จักรธรานนท์  ผู้อำนวยการมูลนิธิอโชก้า (ประเทศไทย) นายโชน โสภณพนิช กรรมการ บลจ.บัวหลวง นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อคนไทย และนายสุนิตย์ เชรษฐา  ผู้อำนวยการสถาบันเช้นจ์ ฟิวชัน

นายสุนิตย์ กล่าวอีกว่า กระบวนการเริ่มจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการจะประชุมคัดเลือกโครงการที่สมควรได้รับการสนับสนุน รวมทั้งจำนวนเงินและเงื่ิอนไขการ สน้บสนุนของแต่ละโครงการจากนั้นส่งให้คณะกรรมการอนุมัติเงินเพื่ออนุมัติการจ่ายเงินโดยจำนวนนั้นจ่ายผ่านบัญชีมูลนิธิยุวพัฒน์เพื่อโครงการกองทุนคนไทยใจดี ทุกโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจะมีการติดตามรายงานความก้าวหน้าให้นักลงทุนรับทราบในทุกไตรมาส


กองทุน BKIND เสนอขายครั้งแรกวันที่ 20-28 ตุลาคม 2557 นี้ มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วย ส่วนมูลค่าขั้นต่ำในการจองซื้อครั้งแรกและครั้งต่อไปเพียง 1,000 บาท สำหรับผู้สนใจกองทุนทุกประเภทของกองทุนบัวหลวง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ กองทุนบัวหลวง โทร.    0 2674 6488 กด 8 หรือ www.bblam.co.th รวมทั้งสาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ หรือบัวหลวงโฟน 1333หรือ www.bangkokbank.com 

ที่มาข้อมูล: http://www.moneyandbanking.co.th/newsupdate.php?defTab=2&isb=isb002%7C5&page=54&newsID=318&newsID=8594



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น